ทักษะการคิด

 ทักษะการคิด (Thinking Skills)

หลักการเรียนรู้เพื่อเสริมทักษะการคิด 🧠
  • ความหมายของทักษะการคิด => ทักษะการคิดเป็นกระบวนการทางสมอง เป็นผลมาจากประสบการณ์เดิม สิ่งเร้า หรือสภาพแวดล้อมที่เข้ามากระทบ ทำให้สมองได้รับการกระตุ้นให้คิด ตัั้งแต่การคิดในสิ่งที่ง่ายไม่ซับซ้อน ไปจนถึง การคิดวิเคราะห์ เปรียบเทียบ สังเคราะห์ และประเมิน เพื่อให้ได้แนวทางในการแก้ปัญหาอย่างเหมาะสมหรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในที่สุด
  • ความสำคัญของทักษะการคิด
    1. สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีคุณภาพ มีระบบ มีเหตุมีผล
    2. สามารถพิจารณาสิ่งต่างๆ และประเมินค่าสิ่งต่างๆโดยใช้หลักเกณฑ์อย่างมีเหตุผล
    3. ประเมินตนเองและผู้อื่นได้อย่างถูกต้อง
    4. มีกระบวนการทำงานเป็นขั้นตอน และใช้เหตุผลในการแก้ไขปัญหา
    5. มีความสามารถในการใช้ภาษาและสื่อความหมายได้เป็นอย่างดี
    6. มีความสามารถในการคิดอย่างชัดเจน ถูกต้อง และคิดอย่างกว้างไกล และคิดอย่างสมเหตุสมผล
    7. เป็นผู้มีปัญญา มีคุณธรรม จริยธรรม มีความรับผิดชอบ
    8. มีความสามารถในการเรียนรู้ตลอดชีวิต
    9. มีภูมิคุ้มกันในการดำเนินชีวิตที่ยุ่งยาก
  • สมองกับการคิด 🌾
    • ทักษะการคิดเป็นกระบวนการทางสมอง ดังนั้น การฝึกฝนและเรียนรู้เพื่อพัฒนาสมอง เพื่อให้สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ธรรมชาติของมนุษย์จะมีสารเคมีอยู่ 2 กลุ่ม คือ
    1. สารแห่งความสุข คือ สารเคมีกลุ่มกระตุ้นสมองให้เกิดความสุข เช่น สารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphine) ทำให้สมองเกิดการเรียนรู้ได้ดี สารอซีทีคอลีน (Acetylcholine) สารเกี่ยวกับความทรงจำและเก็บความจำได้นาน สารโดพามีน (Dopamine) สารที่ทำให้ตื่นตัวกระฉับกระเฉง สารเซโรโทนิน (Serotonin) สารควบคุมพฤติกรรม ซึ่งสารเคมีเหล่านี้จะหลั่งออกมาเมื่อได้รับสิ่งเร้าต่างๆ เช่น
      • การออกกำลังกาย
      • ได้รับคำชมเชย ไม่ถูกดุด่า ติเตียน
      • มีสิ่งแวดล้อม ในห้องเรียนที่ดี สะอาด สบาย น่าอยู่
      • การมองเห็นคุณค่าของตัวเอง
      • การให้ทาน การช่วยเหลือผู้อื่น
      • การสัมผัสกับความจริง ได้ ทัศนศึกษาง
    2. สารแห่งความทุกข์ คือ กลุ่มสารที่กดการทำงานของสมอง เช่น สารอดรีนาลีน (Adrenaline) และสารคอร์ตอซอล (Cortisol) ซึ่งจะหลั่งออกมาเองโดยสัญชาตญาณเมื่อมีความเครียด ดังนั้นผู้สอนสามารถทำได้คือ ลดความเครียดเพื่อให้สมองของผู้เรียนเรียนรู้ได้ดีที่สุด
  • ระดับของการคิด
ที่มารูป: https://sirikanya926.files.wordpress.com/2014/01/blooms_old_new.jpg

  • การจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะการคิด 🌺
    1. การสอนโดยตรง คือ การมุ่งพัฒนาการคิดโดยตรงเป็นหลัก ไม่คำนึงถึงเนื้อหาสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรมากนัก
    2. การสอนทางอ้อม คือ การสอดแทรกการพัฒนาการคิดเข้าไปในเนื้อหาวิชาตามหลักสูตร
        ทั้งนี้ ไม่ว่าผู้สอนจะใช้วิธีใดก็ตามผู้สอนต้องเข้าใจก่อนว่า การที่ผู้เรียนจะเกิดความคิดหรือสร้างความรู้ขึ้นมาได้นั้น ต้องเริ่มจากการได้ลงมือทำเสียก่อน การที่ผู้เรียนได้ลงมือทำจะทำให้เกิดความคิด จินตนาการ ส่งผลให้ผู้เรียนเข้าใจในสิ่งที่เป็นนามธรรมมากขึ้นและเข้าใจที่เป็นสัญลักษณ์ได้ ดังนั้น ผู้สอนจึงควรออกแบบแผนจัดการเรียนรู้ให้น่าสนใจ มีชีวิตชีวา และเลือกใช้สื่อหรือกิจกรรมที่สนุกสนานเร้าใจ  จะเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้การสอนเพื่อพัฒนาทักษะการคิดโดยผ่านเนื้อหาในหลักสูตรประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดีซึ่งในการสอนผู้เรียนคิดอย่างมีคุณภาพนั้น มีแนวทางใน 3 ด้าน ตังนี้
    1. การสอนให้รู้จักคิด (Teaching for thinking) คือ จัดการเรียนเพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนรู้จักคิด เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการคิด
    2. การสอนการคิด (Teaching of thinking) คือ เน้นให้ผู้เรียนได้ฝึกเรียนรู้วิธีคิดแบบต่างๆโดยตรง
    3. การสอนเกี่ยวกับการคิด (Teaching about thinking) คือ ให้ผู้เรียนได้ตระหนักถึงกระบวนการคิดของตนเองและผู้อื่น
  • แนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาการคิด 🌏
    1. คำนึงถึงความแตกต่างของพัฒนาการทางสมองของผู้เรียน
    2. ระดับของการคิด มี 6 ระดับ ผู้สอนจึงควรทำความเข้าใจและพัฒนาผู้เรียนแต่ละบุคคลให้ได้รับการพัฒนาการคิดไปจนถึงระดับสูงสุด
    3. ครูต้องมีความรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้เครื่องมือและกิจกรรมต่างๆ ไปใช้พัฒนาการคิดให้เหมาะสมและพัฒนาการคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    4. ครูสร้างบรรยากาศการคิดโดยการ
      • กระตุ้น สร้างความท้าทายที่เหมาะสมให้กับเด็กในการเรียนรู้
      • เปิดโอกาสให้เด็กแสดงความคิด
      • ส่งเสริมให้เด็กมีความสุขในการเรียนรู้
      • จัดกิจกรรมให้มีการเคลื่อนไหวในขณะที่เรียน
      • ให้กำลังใจ ชมเชย ไม่ดุด่า
      • สิ่งแวดล้อมในห้องเรียนที่ดี
  • บทบาทของผู้สอนในการส่งเสริมทักษะการคิด 🍵
    • ขั้นเตรียมความพร้อม ผู้สอนต้องศึกษาระเบียบ พ.ร.บ. ที่เกี่ยวข้องกับการคิด
    • ขั้นกิจกรรมการเรียนการสอน ผู้สอนต้องหมั่นตั้งคำถามให้ผู้เรียนเกิดข้อสงสัย หรือปัญหา การสนับสนุนให้ผู้เรียนค้นคว้าหาคำตอบด้วยตนเองและมีอิสระ เมื่อผู้สอนให้นักเรียนตอบคำถาม ผู้สอนจึงต้องลดบทบาทลง โดยพูดให้น้อยลงและฟังให้มากขึ้น และผู้สอนต้องสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเองกับผู้เรียน และมีการเสริมแรงอย่างสม่ำเสมอ
    • ขั้นวัดและประเมินผล ผู้สอนต้องกำหนดจุดมุ่งหมายของการวัด กำหนดตัวชื้วัดหรือพฤติกรรมเฉพาะของสิ่งที่มุ่งหวัง ต้องมีการสร้างเครื่องมือในการวัด หรือวิธีการตรวจให้คะแนน
  • การประเมินผลทักษะการคิด 📝
                    เป็นสิ่งจำเป็นในการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพราะผลที่ได้จากการประเมินผลนั้นจะทำให้ทราบถึงพัฒนาการในการเรียนรู้ของผู้เรียน เพื่อเป็นแนวทางในการจัดเตรียมกิจกรรมสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับความสามารถ ความต้องการและความสนใจของผู้เรียน 
    1. การใช้แบบทดสอบ
      • การใช้แบบทดสอบมาตรฐาน คือ มีผู้สร้างแบบทดสอบไว้แล้ว สามารถจัดกลุ่มได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ แบบทดสอบการคิดทั่วไป และแบบทดสอบความคิดเฉพาะด้าน
      • การสร้างแบบวัดการคิดขึ้นใช้เอง แบบทดสอบที่นิยมทั่วไปใช้นั้น บางครั้งไม่สอดคล้องกับเป้าหมายการวัด ซึ่งแก้ไขได้โดยสร้างแบบทดสอบขึ้นมาเอง เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการในการวัด
    2. การประเมินผลตามสภาพจริง
      • สิ่งแรกที่สำคัญของการประเมินผลตามสภาพจริง คือ จุดประสงค์ของการเรียนรู้ ซึ่งจำเป็นต้องแยกเป็นประเด็นย่อยที่สำคัญ ที่จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงการบรรลุจุดประสงค์ และผู้สอนต้องหาวิธีประเมินที่หลากหลายและสอดคล้องกับตัวบ่งชี้ พร้อมทั้งสร้างเครื่องมือการประเมิน และการกำหนดแหล่งข้อมูลที่จะใช้ในการประเมินด้วย
เทคนิคการสอนที่ส่งเสริมทักษะการคิด 🌹
  • ผังมโนทัศน์ (A Concept Map) ช่วยให้การนำเสนอความคิดเป็นไปอย่างเป็นระบบ เข้าใจง่าย กระชับ ชัดเจน มีหลายประเภท เช่น ผังแมงมุม (A Spider Map) ผังลำดับขั้นตอน (A Sequential Map) ผังก้างปลา (A Fishbone Map) เป็นต้น โดยมีขั้นตอน ดังนี้
      • เริ่มจากกิจกรรมกระตุ้นสมอง ซึ่งจะต้องมีความสัมพันธ์กับกิจกรรมที่จะฝึก
      • ตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นให้เกิดการคิด ในขั้นนี้ผู้เรียนจะได้ลงมือทำเอง
      • กระตุ้นให้ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ขึ้นมาเอง
      • ประเมินความคิดของผู้เรียนโดยพิจารณาจากความสำเร็จและประสิทธิผลของการคิด
    • การใช้ผังมโนทัศน์ สามารถใช้ได้ทั้ง 2 ลักษณะ ได้แก่ 
      • เริ่มต้นกิจกรรมการเรียนรู้ 📘
        • เพื่อให้ผู้เรียนมองเห็นภาพรวมของเรื่องที่จะเรียน ผู้สอนต้องสร้างผังล่วงหน้า
        • เพื่อดึงความรู้เดิมของผู้เรียน
      • หลังกิจกรรมการเรียนรู้ 📘
        • เพื่อให้ผู้เรียนรวบรวมข้อมูลความรู้ทั้งหมดที่เรียน มาจัดเป็นแผนภาพ
        • เพื่อให้ผู้สอนได้มีโอกาสตรวจสอบ ประเมินผลการเรียนรู้จากแผนภาพ
    • ประโยชน์ของการให้ผู้เรียนใช้ผังมโนทัศน์
      1. เป็นการพัฒนาการคิดในระดับสูง
      2. ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจในสิ่งที่เรียน
      3. ช่วยให้ผู้เรียนจำได้ในลักษณะความจำแบบถาวร
      4. ช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาปัญญาอย่างหลากหลาย (Multiple Intelligences)
  • การใช้คำถาม (Questioning) จุดประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในชั้นเรียน โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่
    • คำถามแบบเจาะจง
      • คำถามข้อเท็จจริง => ใช้ทดสอบความจำ
      • คำถามคาดคะเน => ผู้เรียนต้องวิเคราะห์จากความรู้ที่ได้มา
      • คำถามสมบูรณ์ => ผู้เรียนต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการตอบ
      • คำถามประเมิน => ผู้เรียนต้องพิจารณาตัดสินใจก่อนตอบ
    • คำถามแนะให้คิด เป็นคำถามที่ใช้หลังจากการถามคำถามแรกแล้วผู้เรียนไม่สามารถตอบได้ หรือตอบผิด จะใช้เป็นคำชี้แนะ (Cues) หรือคำใบ้ (Hint)
    • คำถามกระตุ้นให้คิดต่อ เป็นคำถามที่ใช้ต่อจากคำตอบของผู้เรียนที่ไม่ลึกพอ
    จะเห็นได้ว่า คำถามที่มีประสิทธิภาพ คือ คำถามที่มีความชัดเจนของภาษา ตรงไปตรงมา เหมาะกับระดับของผู้เรียน ข้อสำคัญคือ คำถามต้องตรงกับเนื้อหาที่เรียนหรือวัตถุประสงค์ของบทเรียน การถามที่ดีควรให้เวลาแก่ผู้เรียนได้ใช้กระบวนการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เรียนรู้ไปด้วย
    นอกจากนี้บลูมได้กำหนดจุดมุ่งหมายตามระดับขั้นความรู้ด้านพุทธพิสัยจากต่ำไปสูงคือ ระดับความรู้ความจำ, ความเข้าใจ, การนำไปใช้, การวิเคราะห์, การแระเมินผล และการสร้างสรรค์

ตัวอย่าง ระดับการคิดกับตัวอย่างคำและการตั้งคำถาม

 🌹  🌹  🌹  🌹เก่งมากๆเลยที่อ่านมาถึงจุดนี้ได้ จากนี้คือหัวข้อสุดท้ายแล้วนะ 🌹  🌹  🌹  🌹

เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ส่งเสริมทักษะการคิด
  • Padlet
            Padlet เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมที่ออกแบบพื้นที่หรือกระดานสำหรับแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งผู้อื่นสามารถเห็นคำตอบของเราได้แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะรู้ชื่อเราไหม ขอบอกว่า ไม่จำเป็นต้องระบุตัวตนก็ได้ ซึ่งช่วยลดปัญหาความไม่กล้าแสดงออกของผู้เรียนบางส่วนได้
เว็บไซต์ของ Padlet: https://padlet.com/dashboard



  • Popplet Lite
            Popplet lite เป็นโปรแกรมที่เอาไว้ใช้ออกแบบแผนผังความคิด หรือภาษาบ้านๆเรียกว่า Mindmap ซึ่งสามารถวาดแผนผังความคิดได้หลากหลายแบบ ทั้งแบบแมงมุม แบบลำดับขั้นตอน หรือผังก้างปลา เป็นต้น
เว็บไซต์ของ Popplet: https://app.popplet.com/#/


  • Minecraft
            Minecraft คือเกมในรูปแบบ Sandbox บางคนอาจมาอ่านแล้วตกใจว่าใช่หรอ ขอบอกว่าใช่ครับแต่ไม่ใช่เวอร์ชันแบบปกตินะ Minecraft ที่เราอยากนำเสนอคือแบบ Edu หรือ Minecaft Education edition ซึ่งเวอร์ชันนี้ จะไม่ใช่การสำรวจหรือสร้างสิ่งต่างๆตามจินตนาการแต่อย่างใด แต่คือเราต้องเขียนโปรแกรมเพื่อที่จะให้ตัวละคร Steve/Alex ทำงานในรูปแบบต่างๆ //ใครว่าเกมไม่มีประโยชน์ลองเอาอันนี้ไปให้เค้าดูเลยนะ🤣🤣🤣


🌻🌻🌻🌻🌻 สรุปจากผู้เขียน Blog 🌻🌻🌻🌻🌻

        ทักษะการคิดนั้นเป็นกระบวนการทางสมอง เป็นผลมาจากประสบการณ์ สิ่งเร้า หรือสภาพแวดล้อม ซึ่งทำให้สมองได้รับการกระตุ้นให้คิด ซึ่งระดับการคิดนั้นมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 ระดับ ก็คือ
  1. ความรู้ความจำ (Knowledge)
  2. ความเข้าใจ (Comprehensive)
  3. การนำไปใช้ (Application)
  4. การวิเคราะห์ (Analysis)
  5. การสังเคราะห์ (Synthesis)
  6. การประเมินค่า (Evaluation)
        จะห็นได้ว่า ระดับการคิดนั้นมีเยอะมากเลยซึ่งการที่ผู้สอนจะสอนให้ทุกคนนั้นคิดในระดับที่สูงได้นั้นจำเป็นต้องค่อยให้ผู้เรียนฝึกคิดไปเรื่อยๆ อาจจะใช้คำถามให้ผู้เรียนเกิดความคิดขึ้น หรือจะจัดกิจกรรมที่เป็นกิจกรรมส่งเสริมทักษะการคิดขึ้นมาก็ได้อีกเช่นเดียวกัน


แหล่งที่มา
ผศ.ดร.นัทธีรัตน์ พีระพันธุ์, เอกสารประกอบการเรียนวิชาการพัฒนาสมรรถนะครูในยุคดิจิทัล เรื่อง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อส่งเสริมทักษะการคิด

ความคิดเห็น